ธุรกิจ "น้ำชงขวด" ต้นทุนต่ำ สร้างกำไรไว ทำเงินออนไลน์ง่าย ๆ พร้อมแจกฟรีสูตร!

บทความ Jun 14, 2025

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็วและความสะดวกสบาย "ธุรกิจออนไลน์" ได้กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหารายได้เสริม หรือแม้แต่ต้องการเริ่มต้นกิจการของตัวเองจากที่บ้าน หนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลงตัวคือ "ธุรกิจน้ำชงขวด" หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า "ชาบรรจุขวด"

เพื่อน ๆ อาจคิดว่าการจะเริ่มต้นธุรกิจสักอย่างนั้นต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล หรือต้องมีทำเลหน้าร้านที่โดดเด่น แต่สำหรับธุรกิจน้ำชงขวด เพื่อน  ๆ กำลังจะเปลี่ยนความคิดนั้น เพราะนี่คือโอกาสทองที่เพื่อน  ๆ สามารถลงทุนหลักสิบ และสร้างกำไรไวได้จริง! ธุรกิจนี้ไม่ได้จำกัดแค่ผู้ที่ทำเป็นอาชีพหลักเท่านั้น แต่ยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างอาชีพเสริมไปพร้อมกับงานประจำ นักศึกษาที่อยากหารายได้ หรือแม้แต่แม่บ้านที่อยากใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด

บทความนี้ Bluemochathailand เพื่อนที่ดีที่สุดของร้านชากาแฟ จะพาคุณไปทำความรู้จักทุกแง่มุมของธุรกิจน้ำชงขวด ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐาน การวางแผนอย่างรอบคอบ การเลือกใช้วัตถุดิบ วิธีการชงแบบมืออาชีพ เทคนิคการตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้เพื่อน ๆ ทำเงินออนไลน์ง่าย ๆ ไปจนถึงเคล็ดลับการเก็บรักษาให้เครื่องดื่มอร่อยสดใหม่ได้นานขึ้น พร้อมกันนี้ เรายังเตรียมสูตรน้ำชงยอดนิยม มาแจกฟรี! ให้เพื่อน ๆ นำไปเริ่มต้นสร้างสรรค์เมนูเด็ดของตัวเองได้ทันที รับรองว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถเริ่มต้นธุรกิจ น้ำชงขวด ได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องมีหน้าร้านก็รวยได้!

ทำไม "น้ำชงขวด" จึงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจในปัจจุบันนี้?

ในโลกปัจจุบันที่ผู้บริโภคคุ้นเคยกับความสะดวกสบายเพียงปลายนิ้ว การซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการใช้บริการ Food Delivery กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน สิ่งนี้เองที่ทำให้ธุรกิจเครื่องดื่มบรรจุขวด หรือ "น้ำชงขวด" กลายเป็นโมเดลธุรกิจที่น่าจับตามองและมีศักยภาพสูงอย่างยิ่งในปัจจุบัน

เทรนด์การบริโภคและพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป :

ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่นิยมสั่งสินค้าผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้แต่ของใช้ในชีวิตประจำวัน การเดินทางไปซื้อสินค้าที่หน้าร้านจึงลดน้อยลง การที่น้ำชงขวดสามารถส่งตรงถึงมือลูกค้าได้ง่าย ๆ ที่บ้านหรือที่ทำงาน ตอบโจทย์พฤติกรรมนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ความเร่งรีบในชีวิตประจำวันยังทำให้ผู้บริโภคมองหาเครื่องดื่มที่สามารถพกพาได้สะดวก ดื่มได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งชาบรรจุขวดก็ตอบโจทย์ในข้อนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

ข้อดีของการเป็นธุรกิจ "ไร้หน้าร้าน" :

จุดเด่นที่ทำให้ธุรกิจน้ำชงขวด แตกต่างและน่าสนใจคือ เพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายคงที่มหาศาลอย่างค่าเช่าพื้นที่ ค่าตกแต่งร้าน หรือค่าสาธารณูปโภคที่สูงลิ่ว การทำธุรกิจจากที่บ้านช่วยให้เพื่อน ๆ ประหยัดต้นทุนได้อย่างมหาศาล ทำให้เพื่อน ๆ สามารถนำเงินทุนไปเน้นที่คุณภาพวัตถุดิบ การตลาด หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น นอกจากนี้การทำธุรกิจจากบ้านยังให้ความยืดหยุ่นในการจัดการเวลาอย่างมาก ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นพนักงานประจำที่ต้องการ สร้างอาชีพเสริม หรือแม่บ้านที่ต้องการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด ธุรกิจนี้ก็พร้อมปรับเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเพื่อน ๆ ได้อย่างลงตัว

ศักยภาพในการสร้างรายได้และกำไร :

แม้จะเริ่มต้นด้วยต้นทุนที่ต่ำ แต่ตลาดเครื่องดื่มยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงไหน เครื่องดื่มยังคงเป็นสินค้าที่ผู้คนบริโภคเป็นประจำทุกวัน การนำเสนอเมนู น้ำชงขวด ที่มีรสชาติอร่อย มีเอกลักษณ์ และตอบโจทย์ความสะดวกสบาย จึงมีโอกาสสูงในการสร้างฐานลูกค้าประจำ และแปรเปลี่ยนต้นทุนหลักสิบไปสู่การ สร้างกำไรไว ได้อย่างน่าทึ่ง

เริ่มต้นธุรกิจ "น้ำชงขวด" สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม!

เมื่อเข้าใจแล้วว่า "ธุรกิจน้ำชงขวด" มีศักยภาพเพียงใด ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมความพร้อมเพื่อลงมือทำจริง การเริ่มต้นไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่การวางแผนที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจของเพื่อน ๆ ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

1.วางแผนเงินลงทุนและเลือกใช้ของที่ดี

แน่นอนอยู่แล้วว่าทุกธุรกิจย่อมต้องใช้เงินในการลงทุน แม้ว่าการทำ "ชาบรรจุขวดขาย" จะถูกมองว่าไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะ แต่ก็ต้องมีการวางแผนและแบ่งสัดส่วนเงินให้ชัดเจนในการซื้อวัตถุดิบ ซื้ออุปกรณ์ในการทำ และเผื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินด้านอื่น ๆ การเริ่มต้นด้วยงบประมาณ "หลักสิบ" นั้นเป็นไปได้จริง โดยส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายจะมาจากวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นต้นทุนต่อขวดแล้วจะต่ำมาก ทำให้สามารถสร้างกำไรได้อย่างรวดเร็ว

และที่สำคัญที่สุดคือ "ควรเลือกซื้อเลือกใช้ผงชา-เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ" เพราะการใช้ผงชาที่มีคุณภาพจะช่วยให้ได้ "ชาขวด" รสชาติดี หอมเข้มข้น ไม่ควรเน้นต้นทุนที่ต่ำเพื่อหวังกำไรเพียงอย่างเดียว เพราะจากที่กล่าวไปข้างต้น การจะมีลูกค้าเข้าร้านบ่อย ๆ ได้นั้นก็คือต้องมีรสชาติของน้ำชาที่หอมอร่อย เข้มข้น ดังนั้นต้องรู้จักเลือกใช้ผงชา-เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ ไม่มีรสฝาด ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน หากคุณขายแล้ว "ชาขวด" อร่อยเข้มข้น ลูกค้าก็จะกลับมาซื้อและจะทำให้ร้านมียอดขายที่ดีในระยะยาว

เราขอแนะนำผงชาปรุงสำเร็จของ "โรงงานผลิตชา Bluemocha เชียงใหม่" ที่ผ่านการผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน และเลือกใช้แต่ใบชาคัดเกรดคุณภาพดี แถมยังมีสินค้าให้เลือกใช้กันกว่า 50 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ผงชาเขียว, ผงชาไทย, ผงชานมไต้หวัน รวมไปจนถึงผงโกโก้ ซึ่งล้วนเป็นวัตถุดิบคุณภาพที่จะช่วยยกระดับรสชาติเครื่องดื่มของคุณให้เป็นที่จดจำ

2. ขนาดและรูปทรงของขวด ดึงดูดสายตาลูกค้า

เชื่อหรือไม่ว่าปริมาณน้ำชา และรูปทรงของขวด ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าอย่างมาก ดังนั้น คุณต้องเลือกใช้ "ขวดใส่ชา" ที่ให้ปริมาณชาพอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป และขายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปเพื่อให้ลูกค้าได้ลองซื้อ สำหรับการเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อน ๆ สามารถเลือกใช้ขวดที่มีรูปทรงแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครได้ตามร้านขายขวดทั่วไป หรือหาซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ ซึ่งมีตัวเลือกมากมายให้คุณได้สร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์

3. อุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็น

แม้จะเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นได้ง่าย ๆ แต่ก็ยังคงต้องมีอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการผลิต "น้ำชงขวด" ดังนี้ :

  • หม้อสำหรับต้มน้ำและชงชา/กาแฟ
  • กระชอน สำหรับกรองกากชา/กาแฟ
  • ช้อนตวง และแก้วตวง สำหรับการวัดปริมาณส่วนผสมอย่างแม่นยำ
  • ถังพักน้ำ หรือภาชนะขนาดใหญ่สำหรับพักน้ำชา/กาแฟที่ชงเสร็จแล้ว
  • ขวดบรรจุ

**อุปกรณ์เสริม : หากต้องการเพิ่มความสะดวกและยืดอายุการเก็บรักษา อาจพิจารณาเครื่องซีลฝา (แบบมือหมุนก็เพียงพอสำหรับเริ่มต้น) หรือถุงใส่น้ำแข็งสำหรับขั้นตอนการน็อคเย็น

แจกฟรี! สูตรน้ำชงยอดนิยม สร้างกำไรแน่นอน

หัวใจสำคัญของ "ธุรกิจน้ำชงขวด" คือรสชาติที่อร่อยถูกปากและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าติดใจและกลับมาอุดหนุนซ้ำ นี่คือ 5 สูตรน้ำชงยอดนิยมที่ Bluemocha นำมาแบ่งปัน เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถเริ่มต้นสร้างสรรค์เมนูทำเงินของเพื่อน ๆ ได้ทันที!

หลักการชงชา/กาแฟที่ถูกต้องเพื่อรสชาติเข้มข้นและเก็บได้นาน

ก่อนจะลงมือชง สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานที่จะส่งผลต่อรสชาติและอายุการเก็บรักษา :

  • อุณหภูมิของน้ำ: อุณหภูมิที่เหมาะสมมีผลอย่างมากต่อการสกัดรสชาติและกลิ่นหอมของชาและกาแฟ ตัวอย่างเช่น ชาดำหรือชาไทยควรใช้น้ำเดือดจัดประมาณ 100 องศาเซลเซียส เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นถึงแก่น ในขณะที่ชาเขียวหรือชาขาวอาจใช้น้ำที่อุณหภูมิ 80-100 องศาเซลเซียส
  • การกรองในน้ำเดือด : การกรองกากชาหรือกาแฟในขณะที่น้ำยังร้อนอยู่ หรือการกรองซ้ำ 1-2 ครั้ง เพื่อไม่ให้มีตะกอน จะช่วยให้ได้น้ำชา/กาแฟที่เข้มข้นและบริสุทธิ์ ซึ่งส่งผลดีต่อการเก็บรักษา
  • การปรับสัดส่วน : หลังจากได้น้ำชา/กาแฟเข้มข้นแล้ว การเติมส่วนผสมอื่น ๆ อย่างนมข้นจืด นมข้นหวาน ครีมเทียม หรือน้ำตาล ควรทำอย่างพิถีพิถันและปรับสัดส่วนให้ได้รสชาติที่ต้องการก่อนบรรจุขวด

คำแนะนำเพิ่มเติม :

การเลือกใช้นมข้นจืดและครีมเทียมข้นหวานคุณภาพดี มีส่วนช่วยอย่างมากในการยกระดับรสชาติเครื่องดื่มของคุณ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยลดความฝาดของชา/กาแฟ ไม่ไปกลบกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และยังช่วยเพิ่มความหอมมัน กลมกล่อมให้กับเครื่องดื่มของคุณอีกด้วย

ต่อไปนี้คือ สูตรเด็ดสำหรับ "น้ำชงขวดทำขาย" ของเพื่อน ๆ :

สูตรชงชาใบเตย 6 ลิตร

ส่วนผสม :

  • ใบเตย 10 ใบ
  • น้ำตาลแดง 25 กรัม
  • ชาดำ 15 กรัม
  • น้ำเปล่า 6 ลิตร (แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 3 ลิตร)

วิธีทำ :

  1. เตรียมใบเตย : นำใบเตยมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้กลิ่นออกง่าย
  2. สกัดน้ำชาดำ : ต้มน้ำ 3 ลิตรจนเดือด จากนั้นนำชาดำใส่ถุงกรองแล้วแช่ลงในน้ำเดือด ทิ้งไว้ 10 นาที เมื่อครบเวลาแล้ว ให้บีบน้ำชาออกจากถุงกรองให้หมดเพื่อความเข้มข้น
  3. ต้มน้ำใบเตย : ในหม้ออีกใบ ต้มน้ำอีก 3 ลิตรจนเดือด ใส่ใบเตยที่หั่นไว้ลงไปต้มประมาณ 10 นาที เพื่อให้กลิ่นหอมของใบเตยออกมาเต็มที่ จากนั้นตักใบเตยออก
  4. ผสมและปรุงรส : เทน้ำชาดำที่สกัดไว้ลงไปผสมกับน้ำใบเตย ตามด้วยน้ำตาลแดง คนให้น้ำตาลละลายจนเข้ากันดี
  5. กรองชา : นำชาที่ได้ไปกรองอีกครั้งเพื่อเอาเศษตะกอนต่างๆ ออก จะได้น้ำชาที่ใสสวยงาม
  6. บรรจุขวด : นำชาที่ได้บรรจุลงขวด (จากสูตรนี้จะได้ประมาณ 25 ขวด ขนาดขวดละ 200 มิลลิลิตร)

สูตรชงกาแฟโบราณ 4 ลิตร

ส่วนผสม :

  • ผงกาแฟโบราณ 350 กรัม
  • ครีมเทียม 360 กรัม
  • น้ำตาลทรายขาว 250 กรัม
  • นมข้นหวาน 750 มิลลิลิตร
  • นมข้นจืด 250 มิลลิลิตร
  • น้ำเปล่า 4,500 มิลลิลิตร

วิธีทำ :

  1. เตรียมส่วนนม : ผสมนมข้นหวานและนมข้นจืดในชามผสมให้เข้ากัน แล้วพักไว้
  2. ชงกาแฟ (เคล็ดลับสำคัญ) : ต้มน้ำ 4,500 มิลลิลิตร ให้เดือดจัด จากนั้นให้ปิดไฟก่อน แล้วจึงใส่ผงกาแฟโบราณลงไป วิธีนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยไม่ให้กาแฟมีรสเปรี้ยว
  3. พักกาแฟ : คนเล็กน้อย แล้วพักกาแฟทิ้งไว้เป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้ได้รสชาติและความหอมที่เข้มข้น
  4. กรองกาแฟ : เมื่อครบเวลาแล้ว ให้นำกาแฟมากรองผ่านผ้าขาวบาง 2 ชั้น เพื่อกรองกากกาแฟออกให้หมดจด
  5. ผสมส่วนผสม : ขณะที่กาแฟยังร้อน ให้ใส่ครีมเทียมและน้ำตาลทรายลงไป แล้วคนให้ละลายจนหมด จากนั้นเทส่วนผสมนมที่เตรียมไว้ในขั้นตอนแรกลงไป และคนให้ทุกอย่างเข้ากันดีอีกครั้ง
  6. พักให้รสชาติเข้มข้น : เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด แนะนำอย่างยิ่งให้นำกาแฟไปแช่ตู้เย็นพักไว้ข้ามคืน
  7. บรรจุขวด : ในวันถัดมา นำกาแฟมาบรรจุลงขวดขนาด 200 มิลลิลิตร ซึ่งสูตรนี้จะได้ทั้งหมด 28 ขวดพอดี สิ่งสำคัญคือต้องเก็บกาแฟไว้ในความเย็นตลอดเวลา ไม่ว่าจะในตู้เย็นหรือถังน้ำแข็ง

สูตรชงชาเขียว 4 ลิตร

ส่วนผสม :

  • น้ำเปล่า 2.5 ลิตร
  • ใบชาเขียว 125 กรัม
  • นมข้นหวาน 500 มิลลิลิตร
  • ครีมเทียม 160 กรัม
  • นมสด 1 ลิตร

วิธีทำ :

  1. ต้มน้ำ : นำน้ำ 2.5 ลิตรไปต้มให้เดือดจัด เมื่อเดือดแล้วให้ปิดไฟ
  2. ใส่ใบชา : ใส่ใบชาเขียว 125 กรัมลงในน้ำร้อน แล้วคนเบาๆ ให้เข้ากัน
  3. พักชา: พักชาทิ้งไว้เป็นเวลา 10 นาทีเพื่อให้กลิ่นและรสชาติของชาออกมาเต็มที่
  4. กรองชา : เตรียมที่กรองโดยใช้ผ้าขาวบางรองไว้ จากนั้นเทน้ำชาผ่านผ้ากรองเพื่อแยกน้ำและใบชาออกจากกัน
  5. สกัดน้ำชา : รวบผ้ากรองแล้วบีบคั้นน้ำชาที่เหลืออยู่ออกจากใบชาให้ได้มากที่สุด
  6. ผสมนมข้นหวาน : เทนมข้นหวาน 500 มล. ลงในน้ำชาเขียวที่กรองไว้
  7. ผสมครีมเทียม : ใส่ครีมเทียม 160 กรัมตามลงไป แล้วคนให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันจนเนียน
  8. ผสมนมสด : เทนมสด 1 ลิตรลงไปเป็นส่วนสุดท้าย คนให้เข้ากันดีอีกครั้ง ตอนนี้ชานมเขียวก็พร้อมแล้ว
  9. บรรจุขวด : นำชานมเขียวที่เสร็จแล้วมาบรรจุลงขวดขนาด 200 มล. (สูตรนี้จะทำได้ประมาณ 22 ขวด)

สูตรชงโกโก้ 1 ลิตร

ส่วนผสม :

  • ผงโกโก้ 10 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำร้อน 600 มิลลิลิตร
  • นมข้นหวาน 200 มิลลิลิตร
  • นมข้นจืด 200 มิลลิลิตร

วิธีทำ:

  1. ผสมโกโก้ : ตวงผงโกโก้ 10 ช้อนโต๊ะใส่ในเหยือกหรือภาชนะผสม จากนั้นเทน้ำร้อน 600 มิลลิลิตร ตามลงไป
  2. ปรุงรส : ใส่นมข้นหวาน 200 มิลลิลิตร และนมข้นจืด 200 มิลลิลิตร ลงไป แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี
  3. บรรจุขวด : เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว นำมาเทใส่ขวดขนาด 200 มิลลิลิตร (ได้ทั้งหมด 5 ขวด)
  4. ปิดฝาและแช่เย็น : ปิดฝาขวดให้สนิท แล้วนำไปแช่ในถังน้ำแข็งเพื่อให้โกโก้เย็นจัด พร้อมขายหรือดื่ม

สูตรน้ำกระเจี๊ยบ 8 ลิตร

ส่วนผสม :

  • ดอกกระเจี๊ยบแห้ง 80 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม
  • เกลือ 2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 8 ลิตร

วิธีทำ :

  1. ล้างกระเจี๊ยบ : นำดอกกระเจี๊ยบแห้งไปล้างให้สะอาดเพื่อกำจัดฝุ่นผง จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ
  2. ต้มน้ำ : นำน้ำเปล่า 8 ลิตรใส่หม้อแล้วต้มให้เดือด
  3. ใส่ส่วนผสม : เมื่อน้ำเดือดแล้ว ให้ใส่เกลือตามด้วยดอกกระเจี๊ยบที่ล้างไว้ลงไป
  4. ต้มกระเจี๊ยบ : ใช้ไฟแรงต้มต่อประมาณ 10 นาที สังเกตจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงสดและดอกกระเจี๊ยบจะซีดลง
  5. ใส่น้ำตาล : ใส่น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัมลงไป แล้วคนให้น้ำตาลละลายจนหมด
  6. ชิมและปรับรส : ลองชิมรสชาติ จะได้รสเปรี้ยวอมหวานและมีกลิ่นหอม หากรู้สึกว่าหวานเกินไป สามารถเติมน้ำเปล่าเพิ่มได้ 1-2 ลิตร
  7. กรองน้ำกระเจี๊ยบ : ปิดไฟ แล้วนำน้ำกระเจี๊ยบไปกรองด้วยผ้าขาวบางพับ 2 ชั้นเพื่อกรองเอาแต่น้ำใสๆ
  8. พักให้เย็นและบรรจุขวด : พักน้ำกระเจี๊ยบไว้จนเย็นสนิท จากนั้นนำไปบรรจุขวด (ในคลิปใช้ขวดขนาด 220 มิลลิลิตร สูตรนี้จะทำได้ประมาณ 39 ขวด)

สูตรน้ำเก๊กฮวย 7 ลิตร

ส่วนผสม :

  • ดอกเก๊กฮวยแห้ง 50 กรัม
  • น้ำตาลทรายขาว 500 กรัม (การใช้น้ำตาลทรายขาวจะช่วยให้น้ำเก๊กฮวยใส)
  • ใบเตย 4-5 ใบ (ล้างให้สะอาด)
  • ชะเอมเทศ 4-5 แว่นเล็ก หรือ 2-3 แว่นใหญ่ (ช่วยเพิ่มความหอมชุ่มคอ)
  • เกลือ หยิบมือ (ประมาณปลายช้อนชา)
  • พุทราจีนแห้ง (ช่วยให้ได้สีเหลืองทองสวยงาม)

วิธีทำ:

  1. ลวกดอกเก๊กฮวย (ขั้นตอนสำคัญ) : นำดอกเก๊กฮวยแห้งไปลวกในน้ำร้อนจัดประมาณ 30 วินาที ขั้นตอนนี้จะช่วยลดกลิ่นเหม็นเขียวได้ รีบตักขึ้นทันทีเพื่อไม่ให้กลิ่นหอมของเก๊กฮวยหายไปกับน้ำลวก พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  2. การต้มครั้งที่ 1 (5 ลิตร) : ต้มน้ำ 5 ลิตรให้เดือด ใส่ส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้ลงไป (เก๊กฮวยที่ลวกแล้ว, น้ำตาล, ใบเตย, ชะเอมเทศ, เกลือ, และพุทราจีน) ต้มต่อไปประมาณ 10 นาทีเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น เมื่อครบ 10 นาที ให้ปิดไฟ แล้วพักทิ้งไว้อีก 10-15 นาที  นำมากรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อแยกกากและน้ำออกจากกัน (อย่าเพิ่งทิ้งกาก)
  3. การต้มครั้งที่ 2 (2 ลิตร) : ต้มน้ำอีก 2 ลิตรให้เดือด นำกากเก๊กฮวยจากการต้มครั้งแรกใส่ลงไปต้มอีกครั้ง เมื่อเดือดแล้ว ให้นำมากรองอีกครั้ง แล้วนำน้ำที่ได้ไปผสมกับน้ำจากการต้มครั้งแรก
  4. พักให้เย็นและบรรจุขวด : พักน้ำเก๊กฮวยทั้งหมดไว้จนเย็นสนิท เมื่อเย็นแล้ว นำไปบรรจุขวด (ในคลิปใช้ขวดขนาด 220 มล. จะได้ประมาณ 28 ขวด)

เทคนิคทำเงินออนไลน์ง่าย ๆ วางแผนการขายและการตลาด

การมีสูตรเด็ดและเครื่องดื่มคุณภาพดีเป็นเพียงครึ่งทางสู่ความสำเร็จ อีกครึ่งทางที่สำคัญไม่แพ้กันคือการวางแผนการขายและการตลาดที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่การ ทำเงินออนไลน์ง่าย ๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หา การรู้จักใช้ช่องทางและกลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ ธุรกิจน้ำชงขวด ของคุณเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและสร้างยอดขายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

1 วางแผนขายเครื่องดื่มออนไลน์ : เข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็ว

การจะขายดีในยุคนี้ทุกร้านค้าควรต้องรู้จักช่องทางออนไลน์ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่นิยมซื้อสินค้าผ่านบริการเดลิเวอรี่ ไม่ต้องเดินทางไปยังหน้าร้านก็ได้รับสินค้าง่าย ๆ แล้ว

  • เข้าร่วมบริการ Food Delivery : การเป็นพาร์ทเนอร์กับแอปพลิเคชัน Food Delivery ยอดนิยมอย่าง GrabFood, Foodpanda, Lineman หรือ Robinhood ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง แม้จะมีค่า GP (Gross Profit) หรือค่าธรรมเนียมที่แพลตฟอร์มหักไปบ้าง แต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการเข้าถึงตลาดใหญ่และสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง
  • เปิดช่องทางออนไลน์ของร้านเอง : นอกจากการพึ่งพาแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ คุณควรสร้างช่องทางออนไลน์ของร้านเองเพื่อใช้ในการอัปเดตข่าวสาร โปรโมชั่น หรือแม้กระทั่งรับออเดอร์โดยตรง
  • Facebook Page และ Instagram : ใช้สำหรับโพสต์รูปภาพและวิดีโอสวย ๆ ของผลิตภัณฑ์ สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ เช่น เบื้องหลังการทำ เคล็ดลับการดื่ม หรือกิจกรรมง่าย ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า
  • TikTok : แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยม สามารถใช้สร้างคอนเทนต์ที่สนุกสนาน สร้างสรรค์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นและคนทำงาน
  • Line Official Account (Line OA) : สำหรับสื่อสารโดยตรงกับลูกค้า ตอบคำถาม รับออเดอร์ หรือส่งโปรโมชั่นพิเศษให้กับสมาชิก

การมีร้านค้าออนไลน์ที่หลากหลายจะช่วยให้ร้านของคุณเข้าถึงลูกค้าได้เร็วยิ่งขึ้นและสร้างการรับรู้ในวงกว้าง

2 การหาจุดขายและสร้างเมนูซิกเนเจอร์

ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การมีจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์จะช่วยให้ น้ำชงขวด ของคุณโดดเด่นและเป็นที่จดจำ นอกจากการขายเมนูยอดนิยมอย่างชาเขียว ชาไทย ชานม หรือโกโก้แล้ว ทางร้านก็สามารถหาจุดขายอื่น ๆ ที่ไม่เหมือนใครมาทำได้ เช่น :

  • Gimmick เล็ก ๆ น้อย ๆ : การเขียนคำอวยพรติดทุกขวด แปะกระดาษเกมเล็ก ๆ หรือสติกเกอร์น่ารัก ๆ ก็สามารถสร้างความประทับใจและรอยยิ้มให้กับลูกค้าได้
  • เมนูสร้างสรรค์และเฉพาะกลุ่ม : ลองทำชารสชาติใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีในตลาด หรือพัฒนาเมนูเพื่อสุขภาพ เช่น ชาจากนมเจ, ชาสมุนไพร หรือชาที่เน้นวัตถุดิบท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของคุณ

3 จัดโปรโมชั่นและหมั่นเข้าร่วมแคมเปญแอปฯ เดลิเวอรี่

การจัดโปรโมชั่น การลด แลก แจก แถม เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยเอาใจลูกค้าและกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องจัดบ่อยครั้ง แต่ควรมีบ้างเพื่อส่งเสริมการขายและกระตุ้นยอดขายไม่ให้ลดลง

  • โปรโมชั่นร้านค้า : เช่น ซื้อ 3 แถม 1, ลด 10% เมื่อซื้อครบ 200 บาท, จัดเซ็ตสุดคุ้ม
  • เข้าร่วมแคมเปญของแอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรี่ : ร้านที่เข้าร่วมบริการฟู้ดเดลิเวอรี่ควรหมั่นเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ ของทางแอปฯ เพราะจะทำให้ลูกค้าใช้สิทธิส่วนลดต่าง ๆ ในแอปฯ ได้ และร้านค้าก็จะได้ยอดขายมากกว่าร้านที่ไม่เข้าร่วมนั่นเอง การเข้าร่วมแคมเปญยังเป็นการเพิ่มการมองเห็นให้กับร้านของคุณในแพลตฟอร์มนั้น ๆ อีกด้วย

การวางแผนการตลาดออนไลน์อย่างรอบคอบและปรับตัวตามพฤติกรรมลูกค้า จะช่วยให้ ธุรกิจน้ำชงขวด ของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน

5 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ! การเก็บรักษาและการบริหารจัดการ

การเริ่มต้น ธุรกิจน้ำชงขวด ด้วยต้นทุนที่ต่ำและเทคนิคการตลาดที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่การจะก้าวสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนได้ คุณจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านคุณภาพ การจัดการ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เครื่องดื่มของคุณเป็นที่ยอมรับและสร้างกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ

1. วิธีเก็บรักษาเครื่องดื่มได้นานถึง 3 สัปดาห์ (21 วัน) ด้วยวิธีพาสเจอไรซ์เบื้องต้น

คุณภาพของเครื่องดื่มไม่ได้อยู่ที่รสชาติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสะอาดและอายุการเก็บรักษา การรู้วิธีเก็บรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณมั่นใจว่า น้ำชงขวด ของคุณสดใหม่ ปลอดภัย และคงรสชาติความอร่อยได้นานขึ้น ซึ่ง Bluemocha มีวิธีการง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ที่บ้าน:

ขั้นตอนที่ 1  : เตรียมขวดหรือภาชนะที่ต้องบรรจุชาใส่ลงไป

  • นำขวดไปลวกผ่านน้ำเดือด เพื่อทำการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ โดยตั้งหม้อต้มน้ำให้พอเดือด แล้วใส่ขวดลงไปให้จม
  • ลวกแค่ประมาณ 5 วินาที (ไม่ควรลวกขวดนานเพราะจะทำให้ขวดละลาย)
  • แล้วให้นำขวดไปตากไว้ให้แห้งในพื้นที่สะอาด มีอากาศถ่ายเท (ไม่ควรมีฝุ่น)

ขั้นตอนที่ 2: เมื่อขวดแห้งสนิทแล้ว ให้รีบบรรจุน้ำชาที่ชงไว้

  • เทน้ำชาลงในขวดทันทีแล้วปิดฝาขวดให้สนิท เพื่อรักษาความสะอาดและป้องกันฝุ่นต่าง ๆ ที่อาจปนเปื้อน

ขั้นตอนที่ 3 : หลังจากที่บรรจุชาลงขวดเสร็จแล้ว ให้นำชาขวดไปน็อคในน้ำแข็ง

  • โดยไปแช่ในน้ำแข็งที่มีปริมาณมาก ควรให้น้ำแข็งกลบขวดชาให้มิดชิด
  • แช่ทิ้งไว้ 30 นาที วิธีนี้จะทำให้น้ำชาที่ชงปรับอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว คงกลิ่นและรสชาติของชาไว้ได้ดี

ขั้นตอนที่ 4 : เมื่อนำชาไปน็อคน้ำแข็งครบเวลาที่กำหนดแล้ว

  • ก็นำไปแช่ในตู้เย็นต่อตามปกติ เพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่ หรือจะนำไปขายได้เลย

2. การคำนวณต้นทุนและกำไร

การบริหารจัดการการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ ธุรกิจน้ำชงขวด ของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน การคำนวณต้นทุนที่แม่นยำจะช่วยให้คุณกำหนดราคาขายที่เหมาะสมและมองเห็นกำไรที่แท้จริง โดยสามารถคำนวณได้ดังนี้ :

  • การคำนวณปริมาณที่ใช้ต่อขวด : ปริมาณต้นทุน (ต่อถ้วย) ÷ จำนวนการใช้ (ต่อครั้ง) = จำนวนที่ใช้ (ต่อขวด)
  • การคำนวณต้นทุนวัตถุดิบต่อขวด : ราคาวัตถุดิบ ณ จำนวนขวดที่ได้ = ต้นทุนต่อขวด

ตัวอย่าง : หากใบชา 500 กรัม ราคา 250 บาท และคุณสามารถชงใบชาจำนวนนี้ได้ 200 ขวด (จากการคำนวณตามสูตร) นั่นหมายถึงต้นทุนใบชาต่อขวดของคุณเพียง 2.5 บาทเท่านั้น! เมื่อรวมกับค่านม, น้ำตาล, และค่าขวดแล้ว ต้นทุนต่อขวดก็ยังอยู่ในหลักสิบ ซึ่งทำให้คุณมีพื้นที่ในการกำหนดราคาขายเพื่อ สร้างกำไรไว ได้อย่างชัดเจน

3. คุณภาพและสุขอนามัยที่สม่ำเสมอ

ความสะอาดในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การเตรียม การชง ไปจนถึงการบรรจุขวด เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกค้าและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณ นอกจากนี้ รสชาติของ น้ำชงขวด ควรมีความสม่ำเสมอในทุก ๆ ขวด เพื่อรักษามาตรฐานและทำให้ลูกค้าไม่ผิดหวังเมื่อกลับมาซื้อซ้ำ

4. การจัดการสต็อกและวัตถุดิบ

การวางแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบและการจัดการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดต้นทุนและป้องกันการขาดแคนวัตถุดิบที่จำเป็น ควรมีการบันทึกปริมาณวัตถุดิบที่ใช้และคงเหลือ เพื่อให้สามารถสั่งซื้อได้ทันท่วงทีและไม่เกิดการสิ้นเปลือง

5. การพัฒนาสูตรใหม่ ๆ และศึกษาคู่แข่ง

ตลาดเครื่องดื่มมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาสูตรใหม่ ๆ หรือการนำเสนอเมนูตามเทรนด์ เช่น ชาผลไม้ ชาเพื่อสุขภาพ หรือชาจากนมทางเลือก จะช่วยให้ธุรกิจของคุณไม่น่าเบื่อและดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้เสมอ การศึกษาคู่แข่งและเทรนด์ตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณปรับตัวและวางกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเส้นทางสู่การเป็นเจ้าของ ธุรกิจ "น้ำชงขวด" ที่เราได้นำเสนอไปนี้? จากการวางแผนอย่างรอบคอบ การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี การเรียนรู้วิธีชงที่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงการทำตลาดออนไลน์และการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ จะเห็นได้ว่าการสร้างสรรค์ ชาบรรจุขวดทำขาย ไม่ได้เป็นเรื่องยากอย่างที่คิด

ธุรกิจน้ำชงขวด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนจำนวนมาก หรือต้องมีทำเลหน้าร้านที่หรูหราอลังการ ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างง่ายดายจากที่บ้าน ด้วย ต้นทุนหลักสิบ ที่จับต้องได้ และศักยภาพในการ สร้างกำไรไว ที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผนวกเข้ากับเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทำให้การ ทำเงินออนไลน์ง่าย ๆ กลายเป็นจริง

หัวใจสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจนี้อยู่ที่ความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่รสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ ความสะอาดและสุขอนามัยในทุกขั้นตอน ไปจนถึงการบริการลูกค้าที่ประทับใจ หากคุณรู้จักวางแผน ใส่ใจในคุณภาพ และไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้และพัฒนา บทความนี้หวังว่าจะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ให้กับคุณ และทำให้คุณกล้าที่จะก้าวออกจากกรอบเดิม ๆ มาสร้างอาชีพเสริมหรือธุรกิจหลักของตัวเอง

เพียงคุณเริ่มต้นวันนี้ ด้วยความมุ่งมั่นและความรู้ที่เราได้แบ่งปัน คุณก็สามารถเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จใน ธุรกิจน้ำชงขวด ได้แล้ว อย่ารอช้า! นำคำแนะนำและ สูตรฟรี ที่เราแจกไปลงมือทำได้เลยวันนี้ เพื่อสร้างรายได้และเสริมกำไรให้กับชีวิตของคุณ

คำถามที่พบบ่อย "ธุรกิจน้ำชงขวด" (FAQ)

  • ถาม : ธุรกิจน้ำชงขวด จำเป็นต้องมีหน้าร้านหรือไม่?
  • ตอบ : ไม่จำเป็นเลยครับ! ธุรกิจน้ำชงขวดสามารถทำและขายได้จากที่บ้าน โดยใช้ช่องทางออนไลน์และบริการ Food Delivery เป็นหลัก ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าเช่าหน้าร้านได้อย่างมหาศาล เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัด
  • ถาม : เงินลงทุนเริ่มต้นสำหรับธุรกิจน้ำชงขวดอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
  • ตอบ : สามารถเริ่มต้นได้ด้วยงบประมาณหลักสิบถึงหลักร้อยต่อขวดครับ โดยค่าใช้จ่ายหลักจะมาจากวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ การคำนวณต้นทุนต่อขวดจะอยู่ที่หลักสิบ ซึ่งทำให้มีโอกาสสร้างกำไรได้อย่างรวดเร็วครับ
  • ถาม : น้ำชงบรรจุขวดเก็บได้นานแค่ไหน? มีวิธีเก็บรักษาอย่างไร?
  • ตอบ : หากทำตามวิธีพาสเจอไรซ์เบื้องต้นที่แนะนำในบทความ (ลวกขวด ฆ่าเชื้อ บรรจุและน็อคน้ำแข็ง) สามารถเก็บในตู้เย็นได้นานถึง 3 สัปดาห์ (21 วัน) ครับ
  • ถาม : ควรเลือกใช้วัตถุดิบประเภทไหนสำหรับทำน้ำชงขวด?
  • ตอบ : แนะนำให้เลือกใช้ผงชา เมล็ดกาแฟ หรือผงชงสำเร็จรูปที่มีคุณภาพดี ไม่มีรสฝาดหรือกลิ่นเหม็นหืนครับ เพราะรสชาติที่อร่อยและสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และการเลือกใช้นมข้นจืดหรือครีมเทียมข้นหวานคุณภาพดีก็มีส่วนช่วยยกระดับรสชาติให้ดียิ่งขึ้นครับ
  • ถาม : ช่องทางการขายน้ำชงขวดออนไลน์มีอะไรบ้าง?
  • ตอบ : ช่องทางหลักคือการเข้าร่วมบริการ Food Delivery (เช่น GrabFood, Foodpanda, Lineman) และการสร้างช่องทางออนไลน์ของร้านเอง เช่น Facebook Page, Instagram, TikTok และ Line Official Account เพื่ออัปเดตข่าวสารและรับออเดอร์โดยตรง
  • ถาม : จำเป็นต้องสร้างเมนูซิกเนเจอร์หรือไม่?
  • ตอบ : การมีเมนูซิกเนเจอร์ หรือจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ จะช่วยให้ร้านของคุณโดดเด่นและเป็นที่จดจำในตลาดที่มีการแข่งขันสูงครับ เช่น การเพิ่มกิมมิคเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง
  • ถาม : หากไม่มีประสบการณ์ สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจน้ำชงขวดได้หรือไม่?
  • ตอบ : ได้แน่นอนครับ! บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลและสูตรที่ละเอียด ตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์ การชง ไปจนถึงการตลาด ทำให้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถศึกษาและเริ่มต้นทำตามได้ไม่ยาก

บทความที่น่าสนใจ

ชาอัสสัมพรีเมียม โรงงานผลิตชาเชียงใหม่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แหล่งผลิตชาเชียงใหม่ รับผลิตชาครบวงจร พร้อมส่งทั่วประเทศ !!
รับผลิตชา OEM ขั้นต่ำการผลิตน้อย ต้องโรงคั่วชา bluemocha

ในโลกของธุรกิจชา การมี "โรงงานผลิตชา" ที่ดี มีคุณภาพ และตอบโจทย์ ถือเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ เราขอแนะนำ "Bluemocha" โรงงานผลิตชาครบวงจร ที่พร้อมเนรมิตแบรนด์ชาในฝันของคุณให้เป็นจริง!

Bluemocha คือใคร ?

Bluemocha คือโรงงานผลิตชาระดับมาตรฐาน ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยให้บริการ OEM และ ODM แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การนำเข้าและส่งออกใบชา การพัฒนาสูตร การผลิต การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการขึ้นทะเบียน อย. Bluemocha พร้อมเป็น "One-Stop Service" สำหรับธุรกิจชาของคุณ

ทำไมต้องเลือก Bluemocha ?

  • วัตถุดิบคุณภาพ : คัดสรรใบชาคุณภาพดี กว่า 40 ชนิด จากแหล่งปลูกชั้นนำ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
  • สูตรชาหลากหลาย : มีสูตรชาให้เลือกมากมาย ทั้งชาไทย ชาเขียว ชาไต้หวัน ชาสมุนไพร และชาผลไม้ พร้อมพัฒนาสูตรใหม่ๆ ตามความต้องการ
  • บริการครบวงจร : บริการครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่ พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ขึ้นทะเบียน อย. ให้คำปรึกษา และดูแลหลังการขาย
  • มาตรฐานการผลิต : โรงงานได้มาตรฐาน GMP และ HACCP มั่นใจในความสะอาด ปลอดภัย และคุณภาพ
  • ทีมงานมืออาชีพ : ทีมงาน Bluemocha มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ พร้อมให้คำแนะนำ และดูแลธุรกิจชาของคุณอย่างใกล้ชิด

Bluemocha เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแบรนด์ชา แต่ไม่มีโรงงาน หรือความรู้
  • ร้านกาแฟ ร้านอาหาร โรงแรม ที่ต้องการเพิ่มเมนูชา หรือสร้างแบรนด์ชาของตัวเอง
  • แฟรนไชส์ ที่ต้องการวัตถุดิบ และสูตรชา สำหรับธุรกิจ

Bluemocha พร้อมให้บริการ และเป็น "เพื่อนคู่คิด" สำหรับธุรกิจชาของคุณ ด้วยบริการที่ครบครัน คุณภาพมาตรฐาน และความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน

สนใจใช้บริการ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ Bluemocha ได้ที่ @bluemochacoffee



Tags